หลักสูตรสาขาวิชาวิทยาศาสตร์สิ่งแวดล้อม ได้เปิดสอนหลักสูตรตามเกณฑ์มาตรฐานอุดมศึกษาดังนี้

1. ปรัชญา หลักสูตร วท.บ. สาขาวิชาวิทยาศาสตร์สิ่งแวดล้อม (หลักสูตรปรับปรุง พ.ศ. 2566)

มุ่งผลิตบัณฑิตที่มีคุณภาพและสมรรถนะการทำงานด้านการจัดการสิ่งแวดล้อมอย่างมีประสิทธิภาพเพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืน บนพื้นฐานความเข้าใจด้านนิเวศวิทยาที่ทุกอย่างล้วนเกี่ยวข้องสัมพันธ์กัน ซึ่งหลักปรัชญานี้เป็นตัวกำหนดโครงสร้างของหลักสูตร เพื่อพัฒนาและผลิตบัณฑิตคุณภาพที่มีสมรรถนะการทำงานอย่างมืออาชีพ มีการเรียนรู้ตลอดชีวิต และเป็นประชาชนโลกยุคศตวรรษที่ 21 ที่สามารถปรับตัวต่อการเปลี่ยนแปลงอย่างฉับพลัน มีความรับผิดชอบต่อตนเอง สังคมและสิ่งแวดล้อม และมีคุณธรรมและจริยธรรม

40 graduates/year...1,000 workforce serving Thailand’s and international workplaces over 25 years of curriculum. offering

2. วัตถุประสงค์ หลักสูตร วท.บ. สาขาวิชาวิทยาศาสตร์สิ่งแวดล้อม (หลักสูตรปรับปรุง พ.ศ. 2566)

มีวัตถุประสงค์เพื่อพัฒนาและผลิตบัณฑิตคุณภาพที่มีคุณลักษณะ ดังนี้
2.1) มีความรอบรู้และเข้าใจหลักและทฤษฎีด้านวิทยาศาสตร์สิ่งแวดล้อมและสาขาที่เกี่ยวข้อง ที่สอดคล้องกับสามเสาหลักของการพัฒนาที่ยั่งยืน ได้แก่ สิ่งแวดล้อม เศรษฐกิจและสังคม และพร้อมเป็นบัณฑิตที่มีสมรรถนะการทำงานอย่างมืออาชีพ
2.2) สามารถคิดวิเคราะห์เชิงลึก (Critical thinking) เพื่อเชื่อมโยงสิ่งต่างๆ เกี่ยวกับปัญหาด้านสิ่งแวดล้อม ตั้งแต่ต้นตอหรือสาเหตุของปัญหา สถานการณ์ปัจจุบัน ไปจนถึงผลกระทบที่จะเกิดขึ้น ที่จะนำไปสู่การป้องกัน แก้ไขปัญหา และฟื้นฟูระบบนิเวศและสิ่งแวดล้อมได้อย่างมีประสิทธิภาพและยั่งยืน
2.3) เป็นประชาชนโลกยุคศตวรรษที่ 21 ที่เชื่อมโยงองค์ความรู้วิชาการสู่การดำเนินชีวิตประจำวัน ตระหนักรู้ถึงความสัมพันธ์ของสิ่งต่างๆ บนโลก ลงมือปฏิบัติที่ตนเอง และใช้ชีวิตเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม (Think globally, Act locally, Live ecologically) รู้จักสิทธิและหน้าที่ของตนเอง เคารพสิทธิและหน้าที่ของผู้อื่น มีทักษะการเรียนรู้ตลอดชีวิต และสามารถปรับตัวต่อการเปลี่ยนแปลงอย่างฉับพลัน
2.4) มีความรับผิดชอบต่อตนเอง สังคมและสิ่งแวดล้อม และมีคุณธรรมและจริยธรรม นอกจากนี้ในการจัดการหลักสูตรให้มีคุณภาพ สาขาวิชายังมุ่งเน้น

รูปที่ 1 ข้อมูลการประกอบอาชีพหลังสำเร็จการศึกษาของบัณฑิต หลักสูตรวิทยาศาสตรบัณฑิต สาขาวิชาวิทยาศาสตร์สิ่งแวดล้อม ระหว่างปีการศึกษา 2558-2563

1) ส่งเสริมให้อาจารย์ประจำหลักสูตรและบุคลากรในสาขาวิชาได้ทำงานวิจัยอย่างต่อเนื่อง เพื่อการพัฒนาศักยภาพตนเองให้ทันสมัย และสามารถนำความรู้และประสบการณ์มาแลกเปลี่ยนและถ่ายทอดให้กับนักศึกษา ทั้งในรูปแบบการทำโครงงานวิจัยนักศึกษาชั้นปีที่ 4 โครงการสหกิจศึกษา และนักศึกษาผู้ช่วยงานวิจัย โดยเฉพาะงานวิจัยด้านการจัดการสิ่งแวดล้อมและพลังงาน การอนุรักษ์ความหลากหลายทางชีวภาพ การฟื้นฟูระบบนิเวศ การปรับตัวต่อการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศโลก และการจ่ายค่าตอบแทนให้กับบริการของระบบนิเวศ
2) ให้บริการวิชาการสู่สังคม โดยเฉพาะในพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และเปิดโอกาสให้นักศึกษาได้มีส่วนร่วมในการฝึกทำงานกับอาจารย์ บุคลากร และชุมชนท้องถิ่น รวมไปถึงระดับภูมิภาค ระดับประเทศและระดับอาเซียน และ
3) สร้างสรรค์วัฒนธรรมและสิ่งแวดล้อมภายในสาขาวิชาวิทยาศาสตร์สิ่งแวดล้อม ที่มีความผูกผันเป็นครอบครัวสิ่งแวดล้อม รับฟังและเคารพความคิดเห็นของผู้อื่น เกื้อกูล มีความรับผิดชอบต่อตนเองและสิ่งแวดล้อม
2.2.3 อัตราการได้งานทำของบัณฑิตที่สำเร็จการศึกษา และเส้นทางอาชีพ
จากข้อมูลย้อนหลัง ตั้งแต่ปีการศึกษา 2558 ถึง 2563 บัณฑิตที่สำเร็จการศึกษามีจำนวนเฉลี่ย 43 คน/ปี และภายในระยะเวลา 6 เดือนหลังสำเร็จการศึกษา บัณฑิตมีอัตราการได้งานและศึกษาต่อประมาณร้อยละ 76 ของจำนวนบัณฑิตในปีการศึกษานั้นๆ โดยส่วนใหญ่ได้งานที่ตรงสายด้านวิทยาศาสตร์สิ่งแวดล้อม อย่างไรก็ตามเมื่อติดตามข้อมูลในระยะยาวบัณฑิตทุกคนของหลักสูตรมีงานทำ โดยกลุ่มอาชีพที่บัณฑิตของหลักสูตรได้งาน สรุปได้ดังนี้

รูปที่ 2 กลุ่มอาชีพของบัณฑิต หลักสูตรวิทยาศาสตรบัณฑิต สาขาวิชาวิทยาศาสตร์สิ่งแวดล้อม

(1) กลุ่มนักวิทยาศาสตร์และนักวิจัย ได้แก่
• นักวิทยาศาสตร์และนักวิจัยในมหาวิทยาลัย ศูนย์วิจัยหรือสถาบันวิจัยต่างๆ
• นักวิทยาศาสตร์หรือนักวิจัยและพัฒนา ประจำสถานประกอบการ รัฐวิสาหกิจ องค์การระหว่างประเทศ
(2) กลุ่มนักวิชาการและเจ้าหน้าที่เกี่ยวข้องกับงานด้านสิ่งแวดล้อม ทั้งในระบบราชการ องค์การปกครองส่วนท้องถิ่น รัฐวิสาหกิจ และองค์การระหว่างประเทศ ได้แก่
• นักวิชาการสิ่งแวดล้อมหรือนักวิชาการป่าไม้ ในสำนักนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ส.ผ.) สำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมประจำจังหวัด (ท.ส.จ.) กรมอุตสาหกรรมพื้นฐานและการเหมืองแร่ (ก.พ.ร.) สำนักงานอุตสาหกรรมพื้นฐานและการเหมืองแร่เขต 1-7, กรมควบคุมมลพิษ, สำนักงานสิ่งแวดล้อมและควบคุมมลพิษ ภาค 1-16 กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม
• ครูวิทยาศาสตร์ในระดับประถมและมัธยมศึกษา
• นักวิชาการเกษตรในกรมวิชาการเกษตร กระทรวงเกษตรและสหกรณ์
• นักวิชาการในหน่วยงานราชการอื่นๆ เช่น กรมปศุสัตว์หรือองค์การปกครองส่วนท้องถิ่น
• ผู้ควบคุมมลพิษทางด้านสิ่งแวดล้อมกับกรมโรงงานอุตสาหกรรมและหน่วยงานที่รับรอง
(3) กลุ่มบริษัทเอกชนหรือที่ปรึกษา ได้แก่
• ผู้แทนฝ่ายขายของบริษัทจำหน่ายเครื่องมือวิทยาศาสตร์
• ผู้แทนขายงานด้านสิ่งแวดล้อมของบริษัทที่ปรึกษาทางด้านสิ่งแวดล้อม
• เจ้าหน้าที่ควบคุมคุณภาพสิ่งแวดล้อมในโรงงานอุตสาหกรรม
• เจ้าหน้าที่ประจำห้องปฏิบัติการวิเคราะห์เอกชนที่ได้รับอนุญาตขึ้นทะเบียนห้องปฏิบัติการกับกรมโรงงานอุตสาหกรรม
• นักวิชาการสิ่งแวดล้อมในภาคเอกชน เช่น สถานประกอบการ บริษัทที่ปรึกษาสิ่งแวดล้อมเอกชน
(4) กลุ่มอาชีพอิสระด้านสิ่งแวดล้อม ได้แก่
• ที่ปรึกษาอิสระทางด้านสิ่งแวดล้อม
• นักเขียนอิสระทางด้านสิ่งแวดล้อม
• เจ้าของธุรกิจหรือผู้ประกอบการรุ่นใหม่ด้านสิ่งแวดล้อม เช่น เจ้าของธุรกิจเกษตรปลอดสารพิษ

ความโดดเด่นหรือจุดเด่นของหลักสูตร

หลักสูตรฯ มีความเข้มแข็งและโดดเด่น ดังนี้

1. มีคุณภาพตามเกณฑ์มาตรฐานหลักสูตรระดับปริญญาตรี สาขาวิชาวิทยาศาสตร์สิ่งแวดล้อม โดยมีรายวิชาด้านสิ่งแวดล้อมที่ครอบคลุมมลพิษทางน้ำ ขยะและกากของเสีย มลพิษทางอากาศ มลพิษทางดิน และรายวิชาด้านการจัดการสิ่งแวดล้อม ตัวอย่างเช่น รายวิชาเศรษฐศาสตร์กับสิ่งแวดล้อมบนฐานเศรษฐกิจบีซีจี การจัดการสิ่งแวดล้อม การประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อมและสุขภาพ การฟื้นฟูเชิงนิเวศวิทยา และเทคโนโลยีเพื่อสิ่งแวดล้อม ซึ่งเป็นความเข้มแข็งพื้นฐานของหลักสูตรวิทยาศาสตร์สิ่งแวดล้อม

2. หลักสูตรฯ ถูกพัฒนามาจากกรอบแนวคิดหรือปรัชญาที่ว่า การจัดการสิ่งแวดล้อมอย่างมีประสิทธิภาพเพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืนอยู่บนพื้นฐานความเข้าใจด้านนิเวศวิทยาที่ทุกอย่างล้วนเกี่ยวข้องสัมพันธ์กัน ซึ่งหลักปรัชญานี้เป็นตัวกำหนดโครงสร้างหลักสูตรและกระบวนการเรียนการสอนของรายวิชา นักศึกษาของหลักสูตรฯ จึงได้เรียนรู้หลักวิชาการและฝึกฝนทักษะด้านนิเวศวิทยาที่หลากหลาย เช่น นิเวศวิทยาภาคพื้น นิเวศวิทยาพืช นิเวศวิทยาสัตว์ป่า นิเวศวิทยาปักษี นิเวศวิทยาวิวัฒนาการ และนิเวศวิทยาป่าไม้ เป็นต้น เพื่อให้นักศึกษาได้เรียนรู้และเข้าใจความสัมพันธ์ระหว่างมนุษย์ สิ่งแวดล้อมและความหลากหลายทางชีวภาพบนโลกของเรา บัณฑิตที่สำเร็จการศึกษาจากหลักสูตรฯ จึงมีความรู้และทักษะ (Hard skill) ที่เป็นคุณค่าเพิ่มด้านนิเวศวิทยา ความหลากหลายทางชีวภาพ และการประเมินระบบนิเวศ ทั้งโครงสร้างของระบบนิเวศและมูลค่าทางเศรษฐกิจของบริการจากระบบนิเวศ

3. จากทำเลที่ตั้งของมหาวิทยาลัยขอนแก่นที่สามารถเดินทางเข้าถึงระบบนิเวศและสิ่งแวดล้อมทางธรรมชาติที่หลากหลายได้อย่างสะดวก เอื้อต่อการจัดการเรียนการสอนในภาคสนามที่จะช่วยให้นักศึกษาได้เรียนรู้จากสภาพจริง ได้ขยายผลเชื่อมโยงความรู้จากภาคทฤษฎีสู่การปฏิบัติและประยุกต์ใช้งานจริง และได้ฝึกทักษะและเสริมสร้างสมรรถนะการทำงานอื่นๆ นอกเหนือจากการเรียนรู้ในห้องเรียน (Soft skill) เช่น การอยู่ร่วมกันกับผู้อื่น การวางแผนการทำงาน การแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้า การฝึกวินัย ความอดทน การตรงต่อเวลา และการปรับตัวให้เข้ากับทุกสถานการณ์ ดังนั้นรูปแบบการจัดการเรียนการสอนในภาคสนาม ซึ่งหลักสูตรได้ถือปฏิบัติมาโดยตลอดตั้งแต่เปิดสาขาวิชาครั้งแรก เมื่อปีการศึกษา 2536 จนถึงปัจจุบัน จึงเป็นจุดเด่นหรือชื่อเสียงที่เป็นเหตุผลหรือแรงจูงใจสำคัญของนักศึกษาที่เลือกเข้ามาเรียนในหลักสูตรฯ

รูปที่ 3 การออกสอบปฏิบัติการภาคสนาม หลักสูตรวิทยาศาสตรบัณฑิต สาขาวิชาวิทยาศาสตร์สิ่งแวดล้อม

รูปที่ 4 การศึกษาดูงานนอกสถานที่สำหรับการเรียนในหลักสูตรวิทยาศาสตรบัณฑิต สาขาวิชาวิทยาศาสตร์สิ่งแวดล้อม